ข้อมูลองค์กร

บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2550 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนา จ้างผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต้านความงามและสุขภาพภายใต้แบรนด์ต่างๆ ของบริษัทฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า "Rojukiss", "Best Korea" และ "PhD" ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง "Sis2Sis" และ "Beauti Cute" รวมทั้งสิ้นมากว่า 200 SKUs ซึ่งทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ได้คิดค้นพัฒนาร่วมกับผู้รับจ้างผลิต และนำมาจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการทำการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ต่างๆให้แข็งแกร่ง และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ที่มีนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ ด้วยราคาย่อมเยา มีขนาดและรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อและนำไปใช้งานได้จริง ให้ความคุ้มค่าสูงสุด รวมทั้งมีการปรับปรุง ผลิตภัณฑ์เดิมที่ผู้บริโภคชื่นชอบอยู่แล้วให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ปัจจุบันบริษัทฯ ประกอบธุรกิจพัฒนา จ้างผลิต และจัดจำหน่ายทั้งหมด 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงและทำความสะอาดผิวหน้า (Skincare) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Color Cosmetics) และ ผลิตภัณฑ์ทำสีผม (Hair Color) โดยทำการจำหน่ายในประเทศไทยและอีกหลายประเทศในอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า เป็นต้น ในปี 2565 บริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัทประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตและบรรจุยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อเข้าสู่ธุรกิจเพื่อสุขภาพอย่างเต็มรูปแบบตามพันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่มุ่งหมายจะเป็น ผู้นำด้านความงามและสุขภาพแห่งอนาคตของเอเชีย

วิสัยทัศน์
เป็นผู้นำและมาตรฐานด้านความงามและสุขภาพแห่งอนาคตของเอเชีย
พันธกิจ
เราช่วยเสริมสร้างความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ด้วยผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่พัฒนาขึ้นจากวิทยาศาสตร์ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงและพิสูจน์ได้ ในราคาที่ดีที่สุด

เป้าหมายการดำเนินธุรกิจ

บริษัทฯมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นแบรนต์ดูแลผิวหน้าขั้นนำของประเทศไทย พร้อมสร้างการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายหลักปี 2568 และปีถัดไป ดังนี้

1
การเป็นผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าของประเทศไทย

เป้าหมายหลักของบริษัทฯ คือการสร้างแบรนด์ ROJUKISS ให้เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าของประเทศไทย ผ่านการเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด และยกระดับความภักดีของผู้บริโภค โดยเน้นที่ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ และการสร้างความแตกต่างของแบรนด์

2
บรรลุเป้าหมายการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน

บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 4 พันล้านบาทภายในปี 2573คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 20% โดยการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ ผ่านพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

3
การเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นอย่างต่อเนื่อง

เป้าหมายทางการเงินหลัก คือการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นปีละ 0.5 เปอร์เซ็นต์ โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุน การปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่มอบมูลค่าสูงให้กับผู้บริโภค

4
การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการโฆษณาแบรนด์

เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในระยะยาว และเพิ่มการรับรู้แบรนต์ บริษัทฯ มีแผนเพิ่มงบประมาณการโฆษณาและการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการนำเสนอภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าจากเกาหลี ความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ผ่านทั้งสื่อดั้งเติมและแพลตฟอร์มติจิทัล

5
การขยายตลาดต่างประเทศ

บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัตส่วนรายได้จากต่างประเทศจาก 2%เป็น20% ของยอดธุรกิจทั้งหมดภายในปี2573 ตลาดหลักที่จะมุ่งเน้นคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านรูปแบบการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง เพื่อให้ครอบคลุมตลาดได้อย่างกว้างขวางและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในแต่ละประเทศ

6
การเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของกำไรในอัตรา 15-25% ต่อปีมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง และปรับปรุงความสอดคล้องระหว่างอุปสงค์ (demand) และอุปทาน (supply) ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

2550
2551
2552
2554
2557-2559
2559
2560
2561
2562
2563
2564
2565
2566
2567

พัฒนาการที่สำคัญของบริษัทฯ

2550
ก่อตั้งบริษัทฯ
ก่อตั้งบริษัทฯ เพื่อประกอบธุรกิจนำข้าและทำการตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้เครื่องหมายการค้า Rojukiss จาก เจ้าของเครื่องหมายการค้าในประเทศเกาหลีใต้ และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในประเทศไทย
  • บริษัทฯ ก่อตั้งโดยโดย นางสาวปียวดี สอนสิงห์ จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2550 เพื่อประกอบธุรกิจนำเข้าและ ทำการตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้เครื่องหมายการค้า Rojukiss จากเจ้าของเครื่องหมายการค้าในประเทศเกาหลีใต้ และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในประเทศไทย
  • บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากประเทศเกาหลี และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในประเทศไทยรายแรก ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ Rojukiss ซึ่งเป็นแบรนด์ที่บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการนำเข้า ทำการตลาด และจัดจำหน่ายใน ประเทศไทย ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทางร้านสุขภาพและความงามร้าน Watsons เป็นช่องทางการ จัดจำหน่ายแรก
2551
ขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์
บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Rojukiss ไปยังช่องทางร้านสะดวกซื้อ (Convenient Store) ได้แก่ 7- Eleven, Family Mart และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทางร้านสุขภาพและความงามไปยังร้าน Boots
2552
ขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์
ขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทางร้านสุขภาพและความงาม และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ไปยังช่องทางร้านค้าสมัยใหม่
  • บริษัทฯ ได้เริ่มทำการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในการเข้าถึงผู้บริโภค โดยเริ่มต้นขายผ่าน Tops
2554
เปลี่ยนชื่อบริษัทฯ และขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์
เปลี่ยนชื่อบริษัทฯ และขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทางร้านค้าสมัยใหม่
  • บริษัทฯ เปลี่ยนชื่อบริษัท จาก บริษัท ไอเอ็กซ์ จำกัด เป็น บริษัท เอฌ็องซ์ จำกัด
  • นอกเหนือจากการจัดจำหน่ายสินค้าผ่าน Tops แล้ว บริษัทฯ ได้ขยายเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายในช่องทางร้านค้าสมัยใหม่ ในการเข้าถึงผู้บริโภค โดยจัดจำหน่ายสินค้าผ่าน Tesco อีกด้วย
2557 - 2559
ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Best Korea และ Beauti Cute

ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Best Korea และ Beauti Cute และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทาง ร้านสะดวกซื้อ

บริษัทฯ ได้พัฒนาแบรนด์ Best Korea ใหม่เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า โดยจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อชั้นนำ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสะดวกในการพกพาและใช้งาน รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคที่ต้องการทดลองผลิตภัณฑ์ ให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้มากขึ้น

  • นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้พัฒนาแบรนด์ Beauti Cute ใหม่เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยจำหน่ายผ่านช่องทาง ร้านสุขภาพและความงามเป็นหลัก และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ เพื่อนำเสนอทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการ
  • บริษัทฯ ได้ขยายเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายในช่องทางร้านสะดวกซื้อเพิ่มเติมจากการจัดจำหน่ายผ่าน 7- Eleven และ Family Mart โดยให้ครอบคลุมถึง Lotus Express eXta และ Jiffy
2559
บริษัทฯ เข้าซื้อเครื่องหมายการค้า Rojukiss จากเจ้าของเดิมในประเทศเกาหลีใต้
บริษัทฯ เข้าซื้อเครื่องหมายการค้า Rojukiss จากเจ้าของเดิมในประเทศเกาหลีใต้
  • PhD International Limited ("PhD") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าซื้อเครื่องหมายการค้า Rojukiss จากเจ้าของเดิมใน ประเทศเกาหลีใต้เนื่องจากบริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อพัฒนา เแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
  • PhD เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นผู้ถือกรมสิทธิเครื่องหมายการค้าทั้งหมดและให้บริษัทฯ เป็นผู้ใช้สิทธิดังกล่าวแต่เพียง ผู้เดียว ทั้งนี้ PhD จัดตั้งขึ้นที่ฮ่องกงเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของเครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ ให้เป็นสากล ยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศในอนาคต
2560
จัดสรรหุ้นสามัญและและหุ้นเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ให้แก่ Aurora Asia Holding Pte Limited ("AAH")
  • บริษัทฯ ได้จัดสรรหุ้นสามัญและมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 173.33 ล้านบาท โดยได้ทำการขายหุ้นสามัญเดิม และหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ Aurora Asia Holding Pte Limited ("Aurora") ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อซื้อ หุ้นของบริษัทฯ โดยมี Lakeshore Capital I LP ("LC1") และ LC1 Aurora Co-investment LP ("LC1AC") (LC1 และ LC1AC รวมเรียกว่า "กลุ่ม Lakeshore") ซึ่งเป็นกองทุนปิดประเภท Private Equity เป็นผู้ลงทุนใน Aurora (โปรดพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม ในส่วนที่ 1.3 หัวข้อโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัท)
  • บริษัทฯได้ว่าจ้างผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมาอย่างยาวนานเข้าบริหารบริษัทฯ
2561
ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Sis2Sis
  • บริษัทฯ ได้พัฒนาแบรนด์ Sis2Sis ใหม่เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อชั้นนำ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสะดวกในการพกพาและใช้งาน รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคที่ต้องการทดลองผลิตภัณฑ์ ให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้มากขึ้น
2562
ให้สิทธิการใช้เครื่องหมายการค้า Sis2Sis แก่ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย

ให้สิทธิการใช้เครื่องหมายการค้า Sis2Sis แก่ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย และให้บริการคำปรึกษาในการ ดำเนินธุรกิจและการตลาดสำหรับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ในประเทศอินโดนีเซีย

  • บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาให้สิทธิการใช้เครื่องหมายการค้า Sis2sis แก่ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซียและ ได้เข้าทำสัญญาให้บริการที่ปรึกษาในการดำเนินธุรกิจและสัญญาให้บริการวางแผนกลยุทธ์ทางการขายและการตลาดกับ ผู้ร่วมค้าสำหรับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Sis2Sis ของบริษัทฯ ในประเทศอินโดนีเซีย ผ่านเครือข่ายร้านสะดวกซื้อที่ครอบคลุมทั่วประเทศอินโดนีเซียผู้บริหารของบริษัทฯ จัดตั้ง Guts and Good ขึ้นเพื่อถือหุ้นของบริษัทฯ
  • ในช่วงปี 2560-2562 กลุ่ม Lakeshore ได้ขายหุ้นรวมคิดเป็นร้อยละ 12.60 ของหุ้นทั้งหมดของ WWV ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น ทั้งหมดของ AAH ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ เพื่อสร้างแรงจงใจให้แก่พนักงานในการสร้างผลประกอบการที่ดี ให้แก่บริษัทฯ โดยภายหลังในเดือนธันวาคม 2562 กลุ่มผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯได้โอนย้ายสัดส่วนการถือหุ้นทาง อ้อมของบริษัทฯ ที่ตนถือผ่าน WWV ไปยัง Guts and Good ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศสิงคโปร์ เพื่อถือหุ้นของบริษัทฯ สำหรับผู้บริหารและพนักงาน
2563
ออกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผิวภายใต้แบรนด์ Rojukiss
  • บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผิวภายใต้แบรนด์ Rojukiss เผื่อขยายแบรนด์เข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อ ความงามและสุขภาพ เข้าลงนามกับผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
  • บริษัทฯ ได้เข้าลงนามในสัญญาจัดจำหน่ายในประเทศฟิลิปปีนส์และประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 และ 31 มีนาคม 2563 ตามลำดับ เพื่อขยายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ผ่านทางพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายใน 2 ประเทศดังกล่าว จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อเตรียมตัว IPO และขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2563 ได้มีมติ 1) อนุมัติจ่ายเงินปันผลจากกำไรจาก การดำเนินงานสำหรับปี 2562 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 6.2 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 107,407,731.27 บาท และ 2) เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 173 ล้านบาทเป็น 270 ล้านบาทและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 9,666,667 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ที่ประชุมวิสามัญผูถือหุ้นครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ได้มีมติ 1) เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ จากเดิมมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท 2) จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) 3) เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 270 ล้านบาท เป็น 309 ล้านบาท เพื่อรองรับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 4 จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายแก่ประชาชน (IPO) และจำนวนไม่เกิน 18 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิใบสำคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัทฯ Warrant ต่อผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ("KISs ESOP" 5) ออกและเสนอขาย ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัทฯ ต่อผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯภายใต้โครงการออกและเสนอขาย ใบสำคัญแสดงสิทธิตาม KISS ESOP
2564
จัดตั้งกิจการร่วมค้า บริษัท โอทู ศิส จำกัด และการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทฯ โดยบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
  • เมื่อวันที่5 มกราคม 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2564 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท โอทู ศิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยลงทุนในหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 20,000,000 บาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราร้อยละ 40 ทั้งนี้ บริษัทฯ ควบคุมร่วมผ่านสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นกับบริษัท โอ ช้อปปิ้ง จำกัด "โอ ช้อปปิ้ง" (บริษัทย่อยของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ("GMM" บริษัท โอทู คิส จำกัด จดทะเบียน จัดตั้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564
  • เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 AAH และนางสาวปียวดี สอนสิงห์ ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ในการ ให้สิทธิการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทฯ อย่างมีเงื่อนไขแก่ GMM เป็นจำนวนไม่เกิน 40,459,500 หุ้นและไม่เกิน 19,480,500 หุ้นตาม ลำดับ รวมเป็นไม่เกิน 59,940,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 9.9 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นให้กับ ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO ในราคาเดียวกับราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชน โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อนว่า (ก) การจัดตั้ง กิจการร่วมค้าระหว่างบริษัทฯ และ บริษัท โอ ช้อปปิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GMM และการเข้าทำสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น ของกิจการร่วมค้าได้สำเร็จแล้ว และ (V) GMM จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและจากที่ประชุมของ ผู้ถือหุ้นของ GMM ในการเข้าทำรายการดังกล่าว ซึ่งในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ได้กำหนดระยะเวลาการใช้ สิทธิเข้าทำรายการดังกล่าวไว้ไม่เกินวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ &MM ได้ตกลงที่จะไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทฯ เป็นระยะ เวลา 1 ปีหลังจากการเข้าทำรายการ (Noluntary Share Lock-up) หาก GMM ต้องการขายหุ้นของบริษัทฯให้กับบุคคลอื่น (Third party) GMM จะต้องแจ้งความประสงค์ป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับความประสงค์ที่จะขาย จำนวนหุ้น และราคาจะขาย ให้กับบุคคลอื่น (Notice) โดยทางบริษัทฯ และ AAH จะมีสิทธิที่จะสรรหาผู้ซื้อหุ้นของบริษัทฯ ที่ GMM ถืออยู่ ภายใน 15 วัน นับจากวันที่บริษัทฯ และ AAH ได้รับ Notice นั้นในราคาที่สูงกว่าระหว่างราคา (ก) ราคาที่ GMM ได้รับเสนอจากบุคคลอื่นใน จำนวนหุ้นเดียวกัน หรือ (ง ร้อยละ 90 ของราคาปิด (Closing price) ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลัง 30 วันก่อนวันที่แจ้งการ ขายหุ้นของบริษัทฯ ทั้งนี้ ในหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าวไม่ได้มีข้อตกลงที่จะให้ MM ส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการของ บริษัทฯ โดย ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ธุรกรรมการขายหุ้น KISS โดย AAH และนางสาวปียวดี สอนสิงห์ ให้แก่ GMM ได้ เสร็จสมบูรณ์แล้ว ในจำนวน 40,459,500 หุ้นและ 19,480,500 หุ้นตามลำดับ รวมเป็น 59,940,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 9.99 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ในราคาเดียวกับราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรกของ Kเรร ที่ 9.00 บาทต่อหุ้น รวม เป็นมูลค่า 539.46 ล้านบาท โดยภายหลังการเสร็จสิ้นธุรกรรมดังกล่าว AAH จะถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 176,226,420 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 29.4 และนางสาวปียวดี สอนสิงห์ จะถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 108,219,460 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 18.0 ออกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในนามกิจการร่วมค้า 02KIss เดือนมีนาคม 2564 เริ่มจำหน่ายชุดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพีเอชดี เค-เดอร์มา แอนตี้ สปอต แอนด์ เมลาสม่า ไบร์ทเทนนึ่ง โปรแกรม ในนามกิจการร่วมค้าระหว่างบริษัทฯ และบริษัท โอ ช้อปปิ้ง จำกัด "02KIรS" ผ่านช่องทางของบริษัท โอ ช้อปปิ้ง จำกัด

ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศอินโดนีเซีย

  • เดือนเมษายน 2564 เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าโรฐคิส เซรั่ม แบบซองจำนวน 4 สูตรในประเทศอินโดนีเซีย
  • เดือนตุลาคม 2564 เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าโรจูคิส เซรั่ม แบบขวด ขนาด 30 มล. จำนวน 3 สูตรในประเทศ อินโดนีเซีย

ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศเวียดนาม

  • เดือนธันวาคม 2564 เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์มาสก์บำรุงผิวหน้า โรจูคิส จำนวน 4 สูตรในประเทศเวียดนาม
2565
เข้าลงทุนในบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด เพื่อขยายธุรกิจไปสู่นวัตกรรมเพื่อ
  • เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2565 ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ("HIB") โดยบริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงสำหรับการลงทุนใน HIB ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยบริษัทฯ จะลงทุนผ่านการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ HIB ด้วยจำนวนเงิน 5,200,000 บาท เพื่อให้ได้มาซึ่งสัดส่วนการถือหุ้นใน HIB ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ซึ่งทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ HIB หลังจากบริษัทฯ เข้าร่วมลงทุน คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 10,210,000 บาท โดยเป็นหุ้นสามัญจำนวน 102,100 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยการลงทุน ครั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ วัตถุประสงค์ในการลงทุนดังกล่าว เนื่องจาก HIB เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตและบรรจุยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งนี้ HIB เป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีแอนติบอดีต่อเชื้อ SARS-CoV-2 เพื่อพัฒนาวิจัยผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์พ่นจมูก สำหรับป้องกัน หรือยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 (ตามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยี) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการคิดค้นวิจัยและพัฒนาโดยทีมแพทย์และนักวิจัยชั้นนำของไทยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัทฯ จึงมองว่าการลงทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถของบริษัทฯ ไปอีกระดับหนึ่ง โดยเฉพาะนวัตกรรมด้านสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการเป็นผู้นำในการพัฒนาสินค้าอันเป็นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้เล็งเห็นความสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่คิดค้นและพัฒนาโดยทีมนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญคนไทยอีกด้วย โดยเริ่มมีรายได้จากการขายสินค้าดังกล่าวในไตรมาสที่ 3/2565 เป็นต้นไป
  • บริษัท โอทูคิส จำกัด ("O2KISS") เปลี่ยนสถานะจากกิจการร่วมค้าเป็นบริษัทย่อยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ด้วย สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 100 มาเป็นในรูปแบบการขายผ่านทั้ง Online และ Offline
2566
  • บริษัทฯ วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์โรจูคิส ในรูปแบบ Clinical Grade เพื่อเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนประกอบสำคัญคุณภาพสูงและผ่านการทดสอบจากคลินิกว่าปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง
  • ขยายช่องทางการขายผ่านแพลต์ฟอร์มออนไลน์บน TikTok Shop ซึ่งเป็น 1 ใน Marketplace ที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ทางการขายให้เหมาะสมกับเทรนด์การซื้อสินค้าของผู้บริโภค ผ่านบัญชี rojukissth.official
  • ขยายตลาดใหม่ไปยังประเทศจีนผ่านรูปแบบออนไลน์ โดยเป็นการขายผ่านช่องทางร้านค้า TMall และ Douyin เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตในต่างประเทศให้แบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
2567
  • บริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ("HIB") เปลี่ยนสถานะจากกิจการร่วมค้าเป็นบริษัทย่อยด้วยสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 100 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2567
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าภายใต้แบรนด์ "ROJUKISS" ของบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 5.1% เมื่อเทียบกับปี 2566คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 41% และเติบโตเป็น 3 เท่าของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ( Facial Moist) ซึ่งมีการเติบโตอยู่ที่ +14%
Key Brands